ฟิล์มกรองแสงมีกี่ประเภท และ มีประโยชน์อย่างไร
ฟิล์มกรองแสงนั้นเป็นวัสดุที่โปร่งแสง แต่ช่วยลดความร้อน ลดรังสีอินฟราเรด และรังสีอัลตร้าไวโอเลตที่เข้ามาในตัวรถยนต์ หรืออาคาร ทำให้ช่วยลดความร้อนภายในรถยนต์ หรือ อาคาร ให้อุณภูมิที่ร้อนน้อยลง ฟิล์มกรอแสงแบ่งออกเป็นหลายประเภท
- ฟิล์มกรองแสงกันรอยธรรมพาะ เป็นแบบที่ไม่มีส่วนผสนมอของสารป้องกันรังสี UV คือฟิล์มที่ช่วยให้แค่ความร่มเงา ไม่ป้องกันความร้อน ไม่ห้องกันอันตรายจากรังสีต่างๆ อายุการใช้งานประมาณ 3-4 ปี ใช้ไปนานๆสีจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงและแห้งกรอบ ราคาจะค่อนข้างถูกเริ่มต้นที่คันละ 800-1,800 บาท ไม่มีการรับประกันฟิล์ม ไม่มีการรับประกันคุณภาพ
- แบบมีส่วนผสมของสารป้องกันรังสี UV คือ ฟิล์มที่จะเพิ่มวัสดุพิเศษเข้าไปในเนื้อฟิล์ม ในส่วนของการป้องกันรังสีต่างๆ และความร้อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเภทย่อยๆ ได้อีก 4 ประเภท
- ฟิล์มปรอท, ฟิล์มเคลือบโลหะ และฟิล์มลดความร้อน ตัวฟิล์มจะคล้ายกระจกเงา ซึ่งคนข้างนอกจะมองเข้าไปในตัวรถไม่ได้เลยในเวลากลางวัน แต่ถ้าตอนกลางคืนจะสามารถมองเข้าไปได้ ฟิล์มชนิดนี้จะมีคุณภาพในการลดความร้อนตั้งแต่ 35-85% รวมถึงป้องกันรังสีต่างๆ อายุการใช้งานของผิล์มชนิดนี้จะอยู่ที่ 3-7 ปี ส่วนราคาจะอยู่ที่ 2,000-5,000 บาท
- ฟิล์มอินฟราเรด (Infrared Film) เป็นฟิล์มที่เคลือบสารเคมีพิเศษเข้าไป เพื่อทำการตัดรังสีอินฟราเรด ซึ่งฟิล์มชนิดนี้เป็นฟิล์มที่สามารถกันความร้อนได้ดีที่สุด แต่ข้อเสียของฟิล์มประเภทนี้คือ จะไม่ระบายความร้อน เวลาจอดรถตากแดด เข้าไปในรถจะรู้สึกว่าอบมาก และร้อนมาก แต่เวลาใช้จะรู้สึกว่ากันร้อนได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งฟิล์มประเภทนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง
- ฟิล์มใสนาโน (เทคโนโลยีใหม่) เป็นฟิล์มที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ดีกว่าฟิล์มประเภทปรอทหรือเคลือบโลหะ แต่ก็เป็นฟิล์มที่ช่วยลดความร้อนได้สูง 50-90% ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผลิตและโรงงานที่ผลิต ซึ่งฟิล์มชนิดนี้ส่วนมากมักจะราคาที่สูงกว่าฟิล์มปรอท และฟิล์มเคลือบโลหะเล็กน้อย แต่ข้อดีของฟิล์มประเภทนี้คือ ช่วยในเรื่องการมองชัดมองเคลียร์เวลาค่ำคืน และราคาไม่สูงมาก สำหรับคนต้องการประหยัดแต่คุณภาพดีปลานกลาง
- ฟิล์มเซรามิค เป็นฟิล์มที่กำลังนิยมในขณะนี้ ฟิล์มเซรามิคช่วยในเรื่องการมองชัดมองเคลียร์ บางยี่ห้อบางรุ่น เน้นเรื่องการกันความร้อนด้วย ซึ่งจะกันความร้อนได้ตั้งแต่ 50-90% เช่นกัน ราคาจะค่อนข้างสูงมาก พอๆกับฟิล์มอินฟาเรด อายุการใช้งานประมาณ 7 ปี
ฟิล์มกรองแสงที่ดีนั้นไม่สามารถบอกได้ว่ายี่ห้อไหนดี หรือไม่ดี บางครั้งการโฆษณาชวนเชื่ออาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด และอาจเสียเงินฟรี ฟิล์มต้องอยู่ที่การใช้งานจริง ติดแล้วไม่ร้อน ติดแล้วไม่อบ ติดแล้วมองชัดมองเคลีย ที่สำคัญ การรับประกันคุณภาพของประเภทฟิล์มนั้นๆ ลูกค้าบางคนคาดหวังอย่างมากว่าต้องการติดฟิล์มแล้วจะไม่ร้อนเลย บอกได้เลยว่าบ้านเราตอนนี้อุณหภูมิ 40 องศาแล้ว ซึ่งสูงกว่าเมื่ออดีตกาลเป็นอย่างมาก ให้ฟิล์มที่ดีที่สุด ติดยังไงก็มีความรู้สึกว่ามีไอร้อนเข้ามา แต่ขึ้นอยู่กับว่าติดแล้วช่วยลดร้อนได้มากกว่าเดิมจะเป็นฟิล์มประเภทไหน